Spambrain เกี่ยวข้องกับการดูแลเว็บไซต์อย่างไร
Spambrain เกี่ยวข้องกับการดูแลเว็บไซต์อย่างไร การดูแลเว็บไซต์ที่ดี และมีประสิทธิภาพจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณไม่ได้มีการดูแลเว็บไซต์จนถูก Google มองว่าเป็นสแปมก็จะทำให้เว็บไซต์ของคุณอาจไม่ปรากฏอยู่บนหน้าค้นหา Google อีกต่อไป ซึ่งอะไรคือสิ่งที่คอยตรวจสอบสแปม และมีการทำงานอย่างไร มาติดตามกันได้ในบทความนี้เลยค่ะ
Outline
Spambrain คืออะไร
Spambrain คือ AI ของ Google ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยตรวจจับสแปม และพฤติกรรมเข้าข่ายหลอกลวงบนเว็บไซต์ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยในการคัดกรองคอนเทนต์ที่ไม่ได้คุณภาพตามมาตรฐานของ Google ได้อีกด้วย ซึ่ง Spambrain ในปัจจุบันมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้นในการตรวจสอบ และคัดกรองเว็บไซต์ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานของ Google และทำการคัดออกจากหน้าค้นหาของ Google ฉะนั้นผู้ดูแลเว็บไซต์จึงจำเป็นจะต้องคอยตรวจสอบ และดูแลเว็บไซต์ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของ Google อยู่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณสามารถสร้างผลลัพธ์ได้ดี และปรากฏบนหน้าค้นหา Google
Spambrain ทำงานอย่างไร
สำหรับการทำงานของ Spambrain จะมีMachine Learning ที่อัลกอริทึมสามารถเข้าไปเรียนรู้ได้โดยการเปรียบเทียบเว็บไซต์นั้น ๆ กับเว็บไซต์ที่เป็นสแปม ซึ่งการเรียนรู้นี้จะส่งผลให้อัลกอริทึมอัปเกรดความสามารถในการจับสแปมอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งผู้ดูแลเว็บไซต์สามารถป้องกันไม่ให้เกิดสแปมได้โดยการดูแลเว็บไซต์ด้วยการปรับปรุง และพัฒนาเว็บไซต์อยู่อย่างสม่ำเสมอ และที่สำคัญผู้ดูแลเว็บไซต์จะต้องดูแลเว็บไซต์ และปรับปรุงเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับ Google Guidelines อยู่เสมอ เพราะทุกครั้งที่ Spambrain อัปเดต ยิ่งอัลกอริทึมสามารถตรวจจับคอนเทนต์คุณภาพบนเว็บไซต์ได้มากเท่าไร ก็มีโอกาสที่เราจะโดนมองว่าเป็นสแปมน้อยลงเท่านั้นนั่นเอง
เทคนิคการดูแลเว็บไซต์ไม่ให้ถูกมองว่าเป็นสแปม
การดูแลเว็บไซต์เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อ Spambrain มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา เพราะหากผู้ดูแลเว็บไซต์ไม่มีการปรับปรุง หรือ พัฒนาการดูแลเว็บไซต์ก็อาจจะทำให้ Google มองว่าเว็บไซต์ของคุณเป็นสแปมได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งวิธีการดูแลเว็บไซต์เพื่อไม่ให้ถูกมองว่าเป็นสแปมมี ดังนี้
- ไม่ใส่ Keyword เยอะจนเกินไป : สำหรับเว็บไซต์ที่มีการทำ SEO ร่วมด้วย ผู้ดูแลเว็บไซต์จะต้องคอยตรวจสอบเว็บไซต์ให้ดีว่า บนเว็บไซต์ที่ผู้ดูแลเว็บไซต์ดูแลอยู่นั้นมี Keyword จนเกินไปหรือไม่ เพราะการที่บนเว็บไซต์มี Keyword เยอะจนเกินไป จะทำให้ Google มองว่าเว็บไซต์ของคุณทำการสแปมเพื่อหวังผลลัพธ์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งผู้ดูแลเว็บไซต์จึงจะต้องคอยตรวจสอบให้ดี และลบ Keyword ให้มีปริมาณที่พอดี
- ไม่ใช้เนื้อหาที่ซ้ำกันบนเว็บไซต์ : เนื้อหาบนเว็บไซต์ที่ซ้ำกันจะทำให้คุณภาพบนเว็บไซต์ที่ผู้ดูแลเว็บไซต์ดูแลอยู่ลดลง ฉะนั้นผู้ดูแลเว็บไซต์จะต้องมีการตรวจสอบเนื้อหาต่าง ๆ ให้ดีก่อนที่จะใส่เนื้อหาใหม่ลงไป ซึ่งหากเนื้อหาไหนที่คล้ายกัน แต่เป็นข้อมูลใหม่ ก็ให้ผู้ดูแลเว็บไซต์ทำการอัปเดตข้อมูลลงไปใหม่แทนการลงเนื้อหาซ้ำกับของเดิม ก็จะช่วยลดโอกาสในการถูกมองว่าเป็นสแปมได้มากยิ่งขึ้น
- Backlink ต้องมีคุณภาพ : Backlink ที่ไม่มีคุณภาพอาจทำให้เว็บไซต์ของคุณถูกมองว่าเป็นสแปมได้เช่นกัน ซึ่งหากเว็บไซต์ที่ผู้ดูแลเว็บไซต์ดูแลอยู่มีการใช้ Backlink ที่ไม่มีประสิทธิภาพ ก็จะทำให้ Google มองว่าเป็นการสแปม ซึ่งจะลดประสิทธิภาพของเว็บไซต์ที่ผู้ดูแลเว็บไซต์ดูแลอยู่ลง ฉะนั้นผู้ดูแลเว็บไซต์ควรจะตรวจสอบ และเลือกใช้ Backlink เฉพาะที่มีคุณภาพ
Spambrain เป็นการตรวจสอบสแปมบนเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งผู้ดูแลเว็บไซต์จะต้องคอยดูแลเว็บไซต์เพื่อไม่ให้ถูก Google มองว่าเป็นสแปม และลบเว็บไซต์คุณออกจากหน้าค้นหา Google ซึ่งจะทำให้ผลลัพธ์จากช่องทางเว็บไซต์คุณลดลง ซึ่งหากคุณชอบบทความเกี่ยวกับการดูแลเว็บไซต์ หรือ เทคนิคการดูแลเว็บไซต์ใหม่ ๆ สามารถติดตามบทความดี ๆ แบบนี้ได้ใหม่ในบทความหน้าค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
- วิธีการเพิ่มความเร็วเว็บไซต์ที่ผู้ดูแลเว็บไซต์ไม่ควรพลาด
- ป้องกันการโจมตีบนเว็บไซต์ด้วยการดูแลเว็บไซต์
- 3 เครื่องมือ AI ที่ช่วยในการดูแลเว็บไซต์
และหากคุณคิดว่าคุณมีเว็บไซต์ แต่การมีเว็บไซต์ของคุณไม่ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี และคุณไม่มีเวลา ขาดความรู้ในด้านการดูแลเว็บไซต์ ให้เรา KTn develop ได้ดูแลคุณ เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการดูแลเว็บไซต์ให้ติดหน้า Google เพื่อให้เกิดยอดขายทางด้านออนไลน์ ซึ่งเว็บไซต์ที่ติดหน้า Google จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเพิ่มโอกาสให้เกิดยอดขาย สำหรับท่านใดที่ต้องการดูแลเว็บไซต์ครบจบในที่เดียว ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลเว็บไซต์ และทำให้เกิดยอดขายในช่องทางออนไลน์สิค