วิธีการดูแลเว็บไซต์ด้วยการเลือก Hosting
วิธีการดูแลเว็บไซต์ด้วยการเลือก Hosting การดูแลเว็บไซต์เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะการดูแลเว็บไซต์ถือเป็นพื้นฐานที่ช่วยส่งเสริมให้เว็บไซต์ของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และสามารถต่อยอดทางการตลาดออนไลน์ได้อย่างหลากหลาย ซึ่งสำหรับการดูแลเว็บไซต์ในวันนี้ แอดมินจะมาพูดถึงเกี่ยวกับเรื่อง Web Hosting ที่ผู้ดูแลเว็บไซต์จะต้องรู้ เพื่อนำไปปรับให้เข้ากับเว็บไซต์ที่ผู้ดูแลเว็บไซต์ดูแลอยู่ ซึ่งก่อนอื่น แอดมินจะพาคุณไปรู้จักกับ Web Hosting คืออะไร มีกี่ประเภท และหลักการเลือกใช้บริการ Web Hosting ที่ผู้ดูแลเว็บไซต์ต้องรู้จะมีอะไรบ้าง มาติดตามกันได้ในบทความนี้เลยค่ะ
Outline
Web Hosting คืออะไร
Web Hosting คือ การให้บริการพื้นที่บนเซิร์ฟเวอร์ (server) เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเก็บรักษาไฟล์ และข้อมูลต่าง ๆ ของเว็บไซต์ไว้บนเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งจะทำให้เว็บไซต์สามารถเข้าถึงได้ผ่านอินเทอร์เน็ตอย่างง่ายดาย ซึ่งทำให้คุณจะต้องเลือกใช้บริการ Web Hosting ที่มีประสิทธิภาพ และเหมาะสมกับเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นการดูแลเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพที่ดี และปลอดภัยนั่นเอง
Web Hosting มีกี่ประเภท
สำหรับผู้ดูแลเว็บไซต์ที่กำลังศึกษาเกี่ยวกับ Web Hosting ผู้ดูแลเว็บไซต์จะต้องรู้ก่อนว่า Web Hosting มีกี่ประเภท และ Web Hosting แบบไหนที่เหมาะกับเว็บไซต์ที่ผู้ดูแลเว็บไซต์ดูแลอยู่ ซึ่งโดยหลัก ๆ แล้ว Web Hosting จะมีทั้งหมด 3 ประเภทด้วยกัน ดังนี้
- Shared Hosting : เป็นการใช้งานร่วมกันของหลายๆ เว็บไซต์บนเซิร์ฟเวอร์เดียวกัน โดยจะแบ่งพื้นที่บนเครื่องเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งทำให้ Shared hosting จะมีราคาค่าบริการที่ถูกที่สุด และจะเหมาะกับเว็บไซต์ทั่วไปที่มีข้อมูลไม่เยอะมาก แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องของปริมาณการใช้งาน รวมถึงความปลอดภัยน้อยกว่า Web Hosting ประเภทอื่นๆนั่นเอง
- VPS Hosting : VPS Hosting หรือ Virtual Private Server โฮสติ้งที่เป็นเซิร์ฟเวอร์เสมือน ซึ่งจะเป็นการใช้งานร่วมกันของหลายๆ เว็บไซต์บนเซิร์ฟเวอร์เดียวกันมีการแบ่งปันทรัพยากรแต่ไม่ได้มีการแบ่งพื้นที่บนเครื่องเซิร์ฟเวอร์ จึงทำให้แต่ละผู้ใช้งานสามารถใช้งานเสมือนว่าเป็นเซิร์ฟเวอร์ของตัวเอง ซึ่งจะทำให้มีความเสถียรมากยิ่งขึ้น และปลอดภัยมากกว่า shared hosting ซึ่งจะเหมาะกับเว็บไซต์ที่มีข้อมูลเยอะประมาณหนึ่ง และต้องการความเสถียรในการใช้งาน
- Dedicated Hosting : เป็นการใช้งานเซิร์ฟเวอร์เป็นของตนเอง โดยจะมีปริมาณทรัพยากรที่สูง และสามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ ซึ่งในส่วนของราคาก็จะสูงมากกว่า 2 ประเภทก่อนหน้า แต่สามารถรับประกันความเสถียรและความปลอดภัยอย่างสูงสุด ซึ่งจะเหมาะกับเว็บไซต์ที่มีข้อมูลมาก และเน้นเรื่องของการรักษาความปลอดภัย และต้องการความเสถียรเป็นพิเศษ
หลักการเลือก Web Hosting
ผู้ดูแลเว็บไซต์จะต้องมีหลักในการเลือก Web Hosting เพื่อให้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพที่ดี และปลอดภัย ซึ่งหลักในการเลือก Web Hosting ที่ผู้ดูแลเว็บไซต์ต้องรู้มี ดังนี้
- ประเภทของ Web Hosting : ผู้ดูแลเว็บไซต์จะต้องศึกษาประเภทของ Web Hosting ดูว่าแบบไหนที่เหมาะกับเว็บไซต์ของคุณ เพื่อให้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพที่ดี อีกทั้งยังช่วยในเรื่องการคุมงบประมาณจากการดูแลเว็บไซต์ได้อีกด้วย
- ความเร็วและความเสถียร : ความเร็ว และความเสถียรเป็นเรื่องที่สำคัญมากของเว็บไซต์ ฉะนั้นผู้ดูแลเว็บไซต์จะต้องมั่นใจว่า Web Hosting นั้น ๆ จะต้องมีค่า uptime อย่างน้อย 99% หรือ 99.5% ขึ้นไป เพราะหากผู้ดูแลเว็บไซต์ไม่ได้สนใจในเรื่องนี้อาจทำให้ผู้ใช้งานไม่สามารถเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของคุณอย่างแน่นอน
- ความปลอดภัย : ความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะคุณคงไม่ต้องการให้ข้อมูลบนเว็บไซต์ของคุณรั่วไหล หรือ หายไป ฉะนั้นผู้ดูแลเว็บไซต์จะต้องเลือก Web Hosting ที่มีความน่าเชื่อถือ ประมีประวัติที่ดีในการให้บริการ และรวมถึงจะต้องสามารถทำให้เว็บไซต์ของธุรกิจคุณมีความพร้อมใช้งานตลอดเวลา โดยผู้ดูแลเว็บไซต์อาจดูได้จากรีวิวต่าง ๆ
- บริการหลังการขาย : อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือบริการหลังการขายของ Web Hosting เพราะคุณอาจเกิดปัญหาต่าง ๆ ได้ ฉะนั้นผู้ดูแลเว็บไซต์จะต้องเลือก Web Hosting ที่มีบริการผู้ช่วยซัพพอร์ต ตอบคำถาม และช่วยเหลือในการแก้ปัญหาต่างๆ เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณยังสามารถใช้งานต่อไปได้
- การขยายเพิ่มขนาด Web Hosting : การวางแผนสำหรับอนาคตเป็นเรื่องที่ดี และสำคัญต่อธุรกิจ ซึ่งผู้ดูแลเว็บไซต์ควรจะดูว่า Web Hosting ที่ผู้ดูแลเว็บไซต์จะเลือกใช้บริการนั้นสามารถเพิ่ม หรือ ขยายพื้นที่ขึ้นได้หรือไม่ เพื่อให้ผู้ดูแลเว็บไซต์สะดวกขึ้นในอนาคตนั่นเอง
Web Hosting เป็นสิ่งที่สำคัญที่ผู้ดูแลเว็บไซต์ควรให้ความสนใจ เพราะนอกจากจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้ว ยังช่วยจำกัดงบประมาณในการดูแลเว็บไซต์ได้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลลัพธ์ที่ดีต่อธุรกิจของคุณแน่นอน ซึ่งหากคุณชอบบทความเกี่ยวกับการดูแลเว็บไซต์ หรือ เทคนิคใหม่ ๆ ที่ผู้ดูแลเว็บไซต์ต้องรู้ สามารถติดตามบทความดี ๆ แบบนี้ได้ในสัปดาห์หน้าค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ข้อดีของการจ้างดูแลเว็บไซต์ให้กับธุรกิจคุณ
- ดูแลเว็บไซต์วิธีไหน ให้เว็บไซต์โหลดเร็วมากยิ่งขึ้น
- แนะนำเทคนิคสำหรับผู้ดูแลเว็บไซต์ให้เว็บไซต์เป็นที่รู้จัก
และหากคุณคิดว่าคุณมีเว็บไซต์ แต่การมีเว็บไซต์ของคุณไม่ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี และคุณไม่มีเวลา ขาดความรู้ในด้านการดูแลเว็บไซต์ ให้เรา KTn develop ได้ดูแลคุณ เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการดูแลเว็บไซต์ให้ติดหน้า Google เพื่อให้เกิดยอดขายทางด้านออนไลน์ ซึ่งเว็บไซต์ที่ติดหน้า Google จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเพิ่มโอกาสให้เกิดยอดขาย สำหรับท่านใดที่ต้องการดูแลเว็บไซต์ครบจบในที่เดียว ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลเว็บไซต์ และทำให้เกิดยอดขายในช่องทางออนไลน์สิค