Checklist ดูแลเว็บไซต์ 2021

[vc_row][vc_column][vc_column_text]

Checklist ดูแลเว็บไซต์ 2021

Checklist ดูแลเว็บไซต์ 2021 คุณกำลังมองหา Checklist ดี ๆ ในการดูแลเว็บไซต์อยู่รึเปล่า  ? หากคำตอบของคุณคือ “ใช่” บทความนี้จะช่วยบอกให้คุณรู้ว่า การดูแลเว็บไซต์คืออะไรและการมีเว็บไซต์ที่ถูกใจ Google ต้องเริ่มจากสิ่งใด เรามาดูกันเลยค่ะ

การดูแลเว็บไซต์ คืออะไร ?

การดูแลเว็บไซต์คือ ผู้ที่ดูแลเว็บไซต์อัปเดตอมูลหรือเนื้อหาในหน้าเว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ทันต่อตลาดดิจิทัล และสร้างแรงดึงดูดให้กับคนที่เข้าเว็บไซต์ เกิด Content และสาระใหม่ ๆ ที่น่าติดตามในเว็บไซต์คุณอยู่เสมอ อย่างเช่นมีการจัดกิจกรรมให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์เข้ามาร่วมสนุก การจัดโปรโมชั่น อาทิเช่น กิจกรรมที่ไปออกบูท รวมถึง การเขียนเนื้อหาที่ให้ความรู้เทคนิคต่าง ๆ ข้อมูลพวกนี้จะทำให้คนติดตามเว็บไซต์คุณอยู่เสมอ

 

แล้วจะดูเว็บไซต์ยังไง Google ถูกใจ ?

เว็บไซต์ที่ดี ไม่ใช่แค่สวย  แต่ต้องช่วยคุณให้ธุรกิจของคุณหาลูกค้าง่ายขึ้น  และช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ของคุณอีกด้วย คุณอาจจะสงสัยว่าเว็บไซต์ของคุณนั้นถูกสร้างขึ้นมา OK แล้วรึยัง?  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการออกแบบ ความเร็วประสิทธิภาพ การแสดงผล การตลาด และ SEO ถ้าคุณยังไม่แน่ใจ ว่าเว็บไซต์ที่มีโอเคหรือยัง Checklist ข้างล่างนี้จะช่วยทำให้เว็บไซต์ของคุณประสบความสำเร็จได้นั่นเอง

1. เตรียมเนื้อหาและวางแพลนในส่วนของข้อมูลให้พร้อม

หากมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองแล้ว การกำหนดเป้าหมายของเว็บไซต์เป็นสิ่งสำคัญและต้องชัดเจน มีความสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย ดังนั้นควรกำหนดความชัดเจนของเว็บไซต์ว่ามีเป้าหมายอะไร ต้องการจะสื่ออะไรถึงผู้บริโภค สร้างโอกาสในการขาย

2. ใช้งานง่าย และส่งเสริมประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้

เว็บไซต์ที่ดีคือเนื้อหาที่ไม่ซับซ้อน เข้าถึงได้ง่าย ไม่ต้องคลิกไปที่หน้าอื่น ๆ เยอะ และการมีแถบเมนูที่เยอะเกินความจำเป็นก็อาจจะส่งผลให้ผู้ใช้งานเกิดความรำคาญต้องเข้าหลาย ๆ หน้า ดังนั้นเว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภคและช่วยให้ติดหน้า Google ได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

3. ใส่ Keyword บนเว็บไซต์

หากอยากดูแลเว็บไซต์ให้ติดบนหน้า Google นั้นก่อนอื่นต้องรู้ว่าเว็บไซต์ของเราบริการอะไรและมีสินค้าประเภทใด เพื่อที่จะหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องมาใส่ในเว็บไซต์อย่างแนบเนียน ไม่ใส่มากจนเกินไป Google เพราะจะถูกมองว่าเป็น Spam และอาจส่งผลต่อคุณภาพของเว็บไซต์ได้ ควรวางแผนการกระจายคีย์เวิร์ดควบคู่ไปกับการทำเว็บไซต์ จะทำให้ประสิทธิภาพของเว็บไซต์ดีขึ้น

4. เนื้อหามีคุณภาพ มีเอกลักษณ์น่าติดตาม ไม่คัดลอกที่อื่นมา

ตรงส่วนนี้ถือเป็นพื้นฐานสำคัญของการทำ SEO โดยหลัก ๆ คือไม่คัดลอกเนื้อหาของคนอื่นมา ควรมีสไตล์การเขียน การใช้คำ หรือมุมมองที่แตกต่างและน่าสนใจ อัปเดตเนื้อหาใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอ ส่งผลดีต่ออันดับของเว็บไซต์ เมื่อมีเว็บไซต์แล้ว ก็ควรวางแผนการลงเนื้อหา หรือทำเป็นกำหนดการไว้เลย เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีเนื้อหาใหม่ ๆ บนเว็บไซต์อยู่เสมอ

5. รองรับระบบปฏิบัติการมือถือ (Mobile Friendly)

ทุกวันนี้คนเข้ามือถือเพื่อค้นหาข้อมูลและท่องโลกออนไลน์มากกว่าใช้เวลานั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เสียอีก ดังนั้น Google จะเลือกดึงข้อมูลจากเว็บไซต์ที่รองรับการดูผ่านมือถือมากกว่า หากทำเว็บไซต์ให้สามารถแสดงผลได้สวยงาม เนื้อหาเว็บไซต์พอดีหน้าจอ ทั้งคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และมือถือ หรือที่เรียกว่า Responsive Website ก็จะยิ่งดี ส่งผลให้สามารถติดอันดับค้นหาแรก ๆ บน Google ได้

• เตรียมตัว! รู้ลึก 3 เทรนด์ Digital Marketing ในปี 2021
• 13 คำศัพท์ชวนรู้เกี่ยวกับการดูแลเว็บไซต์
• Title Meta Heading Tag คืออะไร หาคำตอบได้ที่ KTn develop

มีเว็บไซต์แล้วก็ต้องมีเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ด้วย

มีเว็บไซต์แล้วแต่ไม่ติดตั้งเครื่องมือ Google ก็ไม่เกิดผลลัพธ์ที่ดี ดังนั้นการติดตั้งเครื่องมือทรงพลังจาก Google จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเว็บไซต์ของคุณ เพิ่มยอดคนเข้า ยอดขายรวมถึงการตรวจสอบความปลอดภัยจากมัลแวร์ ถือว่าเป็นเครื่องมือที่ฟรีและมีประโยชน์ที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีประสิทธิภาพ และเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน ยกตัวอย่าง 4 เครื่องมือหลัก ๆ ในการดูแลเว็บไซต์ดังนี้

1. Google Keyword Planner

เครื่องมือที่จะช่วยในการช่วยวางแผนคำหลัก (Keyword) หัวใจสำคัญของการทำการตลาดบนเว็บไซต์ เพื่อปริมาณคนเข้าเว็บไซต์จะเพิ่มขึ้น รวมถึงปริมาณยอดขายสินค้าเพิ่มขึ้น ช่วยในการรับแนวคิดคำหลัก รวมถึงปริมาณการค้นหา และการคาดการณ์การเข้าชมสำหรับการเลือกคำหลัก(Keyword) ที่ดีและมีความเกี่ยวข้อง

2. Google Search Console

เครื่องมือที่ทำให้รู้จักเว็บไซต์ของคุณในมุมมองของ Google ได้ดียิ่งขึ้น ตรวจสอบโครงสร้างในการแสดงผล แสดงปริมาณการค้นหาและประสิทธิภาพของ Keyword นั้น ๆ แก้ไขปัญหาสแปม เพื่อรักษาความปลอดภัยให้เว็บไซต์ได้เช็กความโดดเด่นของข้อมูลของคุณที่คนอื่นค้นหาได้อีกด้วย

3. Google Analytics

Google Analytics เป็นเครื่องมือที่ช่วยเก็บข้อมูลผู้เข้าชมเว็บไซต์ เพื่อนำไปปรับปรุงและวิเคราะห์ในการทำการตลาด การซื้อโฆษณา การปรับเปลี่ยนเว็บไซต์ และการหาสิ่งที่ผู้เข้าชมสนใจ เช่น สินค้า และบริการ รวมไปถึงเนื้อหาต่าง ๆ บนเว็บไซต์เรา ทำให้เราทราบถึงปัญหา หรือ โอกาสที่มีอยู่ เพื่อทำให้ธุรกิจเติบโต และเพิ่มยอดขายได้นั่นเอง

4. Page Speed Tool

Page Speed Tool ใช้ทดสอบความเร็วของเว็บไซต์ทั้งการแสดงผลบนเดสก์ท็อป และอุปกรณ์เคลื่อนที่ พร้อมให้คำแนะนำในการแก้ไข โดยเครื่องมือนี้จะแสดงข้อมูลเชิงลึก เช่น การตอบกลับของเซิร์ฟเวอร์ ขนาดไฟล์รูปภาพ Css Html JavaScript เป็นต้น

มาถึงขั้นตอนการดูแลเว็บไซต์เบื้องต้น

• ตรวจสอบข้อมูลภายในเว็บไซต์

ตรวจเช็กอมูลบนเว็บไซต์ถึงสิ่งแปลกปลอม หรือ โดน Hack ฝัง Script บางอย่างไว้หรือไม่ การที่มีข้อมูลแปลกปลอม ที่ไม่ได้กรองอยู่บนเว็บ จะทำให้เว็บไซต์ติด Backlist ของ Google ได้ ส่งผลต่อการจัดอันดับในระยะยาวเป็นอย่างมาก เพราะเว็บไซต์ไม่น่าเชื่อถือ และไม่เป็นมืออาชีพ

• Back Up ข้อมูลเว็บไซต์ สม่ำเสมอ

สำรองข้อมูลบนเว็บไซต์อยู่สม่ำเสมอ ในกรณีเกิดเหตุไม่คาดฝัน อย่างเช่น เว็บไซต์ติด Malware จนทำให้ไม่สามารถเข้าเว็บไซต์ได้ จึงต้องการใช้ข้อมูลที่สำรองไว้เบื้องต้นในการกู้คืนข้อมูล ซึ่งอันตรายจากการที่ Hosting หรือ Server ไม่มีการสำรองข้อมูลไว้นั้น จะทำให้มีความเสี่ยงสูงที่ข้อมูลจะสูญหาย เว็บล่มเพียงแค่ 1 ชม. ก็ส่งผลต่อการติดอันดับ SEO บน Google Search ได้

• เลือก Cloud Hosting หรือ Cloud VPS ที่เสถียร

วิธีอย่างนึงที่ Google ชอบเอาไปจัดอันดับในการทำ SEO นั่นคือความเร็วในการโหลดหน้าเว็บของ Google เอง เป็นปัจจัยสำคัญมากสำหรับคนทำเว็บไซต์ยุคใหม่ เพราะการที่เว็บไซต์มีความรวดเร็วในการโหลดข้อมูลนั้น จะทำให้ผู้ใช้งานเกิดความประทับใจ โดย Google นับว่าการที่ผู้ใช้งานประทับใจนั้น เป็นส่วนนึงของการให้คะแนนการจัดอันดับ

 

 

โดยบริการดูแลเว็บไซต์กับ Ktndevelop คุณจะได้อะไรบ้าง

1. ติดตั้งตรวจสอบเว็บไซต์ทุกวัน
2. ติดตั้ง Plugin Yoast SEO ช่วยให้เว็บไซต์ค้นหาใน Google ได้ง่ายขึ้น
3. เพิ่มบทความหรือเพิ่มสินค้าในเว็บไซต์ทุกอาทิตย์
4. ส่งรายงานจำนวนการเข้าชมและอันดับค้นหาใน Google ทุกเดือน
5. อัปเดต Promotion ให้ทุกเดือน

และนี่ก็เป็น Checklist ดูแลเว็บไซต์ปี 2021 ที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีประสิทธิภาพและเกิดผลลัพธ์ที่ดีแก่ธุรกิจของคุณ หากใครที่มีธุรกิจและต้องการทีมงานช่วยดูแลเว็บไซต์ของคุณ เราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลเว็บไซต์ และการมีผู้ดูแลเว็บไซต์ Webmaster จึงเป็นส่วนที่สำคัญอย่างมากที่ช่วยให้ลูกค้าประสบความสำเร็จทางด้านออนไลน์ หากคุณติดปัญหาด้านใดหรืออยากปรึกษาด้านการดูแลเว็บไซต์สามารถติดต่อเราได้ที่

Ktndevelop

เบอร์ติดต่อ: 02-9504253

Phone: 062.424.1394

Email: INFO@KTNDEVELOP.COM

Facebook: KTn develop

Line OA KTn develop: @KTNDEVELOP[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_video link=”https://www.youtube.com/watch?v=3BzcTmY1fCI” align=”center”][/vc_column][/vc_row]